ตระเวนเที่ยวเลียบทะเลและข้ามไปยังเกาะ



1
หุบเขาหยกแม่น้ำโคตาคิ
-
“หุบเขาหยกแม่น้ำโคตาคิ” เป็นแหล่งผลิตหยกเพียงแห่งเดียวในญี่ปุ่นและมีสัญลักษณ์เป็นบ้านเกิดของหยกและแม่น้ำอิโตอิกาวะ ทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นอนุสาวรีย์ธรรมชาติของญี่ปุ่น
ไม่อนุญาตให้เก็บหยกริมฝั่งแม่น้ำ แต่หยกจะไหลจากตรงนี้ไปตามแม่น้ำฮิเมะกาวะและซัดขึ้นชายฝั่งภายในเมือง ด้วยเหตุนี้ชายฝั่งใกล้ๆ จึงเรียกกันอีกอย่างว่าชายฝั่งหยกและจะเห็นคนมาเดินหาหยก
กล่าวกันว่าอัญมณีจะเริ่มแวววาวก็ต่อเมื่อได้เจียระไน แต่ลักษณะเด่นของหยกที่นี่คือความสวยงามตามธรรมชาติเพราะได้รับการเจียระไนโดยธรรมชาติจากสายน้ำของแม่น้ำ
หน้าผาใหญ่ของภูเขาเมียวโจที่ตั้งตระหง่านอยู่ในหุบเขาหยกแม่น้ำโคตาคิเป็นจุดปีนผาชื่อดัง และ “สระน้ำทาคานามิโนะอิเคะ” ที่มี “ภูเขาเมียวโจ” อยู่ด้านหลังก็เป็นทัศนียภาพที่สวยงามเช่นกัน บริเวณใกล้ๆ “สระน้ำทาคานามิโนะอิเคะ” มีทั้งร้านอาหารและร้านค้าด้วย
มีจุดชมวิวและสวนสำหรับตกปลา รวมถึงมีเส้นทางเดินเล่นเตรียมไว้เพื่อให้เพลิดเพลินกับเสน่ห์ของธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ได้แบบเต็มอิ่มด้วย
2
สระน้ำทากานามิ โนะ อิเกะ
3
ชายฝั่งหยก
-
At some beaches in Itoigawa, instead of sand you'll find pebbles. Many of the pebbles come from the mountain in Itoigawa, slowly moving down the the river into the sea over decades. These beaches are called the Jade Coast. In summer the beaches are crowded with visitors. If you're lucky, you may even find some real jade!
4
สถานีริมทาง "มารีนดรีม โน"
-
This road station has shops of benizuwai-gani (red snow crab) and the large scale of seafood shopping center. It also has variaion of Niigata specials for souvenirs, you can also taste the fresh seafood at restaurants. One recommendation is the Kaniya Yokocho, where a chain of shops of Red Zuwai Crab fresh from Nou.
5
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโจเอ็ตสึ อุมิงาตาริ
-
Renovated in June, 2018, its nickname is "Umigatari." The aquarium has more megallanic penguins than any other in Japan, and you can see them up close! You can also watch the dolphins' exciting jumps against the backdrop of the great Sea of Japan. It's full of attractions to see.
10 นาทีโดยรถยนต์ไปยังท่าเรือนาโอเอ็ตสึ
1 ชั่วโมง 20 นาที โดยเรือคาร์เฟอร์รีความเร็วสูง และลงที่ท่าเรือโอกิ
1 นาทีโดยรถยนต์
6
เรือทาไรบุเนะ
7
นิชิมิกาวะ โกลด์พาร์ก
8
ซากโบราณสถานเหมืองทองสะโดะคินซัง
-
เหมืองทองสะโดะคินซังเป็นเหมืองเงินและทองที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นในยุคใหม่ มีประวัติศาสตร์เกือบ 400 ปีโดยกล่าวกันว่าสร้างขึ้นเมื่อปี 1601 เจริญรุ่งเรืองและเสื่อมถอยซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนหยุดปฏิบัติงานในปี 1989 อุโมงค์ในเหมืองแร่ ร่องรอยการขุดและร่องรอยการทำอุตสาหกรรมได้รับเลือกเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น ร่องรอยทางประวัติศาสตร์ และมรดกอุตสาหกรรมสมัยใหม่ รวมถึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกของมรดกโลกด้วย
มีทิวทัศน์เหมือนหลงเข้าไปอยู่ในฉากของอนิเมะเรื่อง “ลาพิวต้า พลิกตำนานเหนือเวหา (Castle in the Sky)” ของฮายาโอะ มิยาซากิ ทั้งยังได้รับความนิยมในหมู่คนรักซากโบราณสถานและซากปรักหักพัง มีจุดเหมาะถ่ายภาพมากมายและมีคนไม่น้อยเลยที่บอกว่า “เที่ยวได้ทั้งวันโดยไม่มีเบื่อ”
การตระเวนเที่ยวภายในซากโบราณสถานมี 2 เส้นทางที่ไม่ต้องจองและเยี่ยมชมได้อิสระ (ใช้เวลาเส้นทางละประมาณ 30-40 นาที) รวมถึง 2 เส้นทางพร้อมไกด์ที่ต้องจอง (ทั้งสองเส้นทางจะใช้เวลาประมาณ 100 นาที) เส้นทางเยี่ยมชมอิสระไม่มีวันหยุดตลอดทั้งปี ส่วนเส้นทางพร้อมไกด์มีเงื่อนไขต่างๆ เช่น เปิดเฉพาะเดือนเมษายน - พฤศจิกายน รับเฉพาะหมู่คณะ (10 คนขึ้นไป) หรือสำหรับผู้เชี่ยวชาญ (นักเรียนมัธยมต้นขึ้นไป) จึงต้องวางแผนล่วงหน้าไว้ให้ดี