ท่องเที่ยวเพื่อตามหารสชาติของนีงาตะ! คอร์สหัตถกรรมและอาหารรสเลิศ



จากสถานี Tsubame-Sanjo โดยรถยนต์ 3 นาที
1
จุดพักรถ Tsubamesanjo Jibasan Center
-
Tsubamesanjo Jibasan Center ตั้งอยู่ในสึบาเมะซันโจที่เป็นแหล่งผลิตสินค้าโลหะอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น เป็นพิพิธภัณฑ์สินค้าท้องถิ่นที่จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กว่า 10,000 ชิ้น เช่น หม้อ ของใช้ในครัว ของมีคม และภาชนะตะวันตก ผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่นิยมในต่างประเทศก็มีอยู่มาก ประกอบกับมีร้านค้ายกเว้นภาษี จึงเหมาะกับนักท่องเที่ยวต่างชาติมากๆ นอกจากนี้ยังได้รับการระบุให้เป็นแหล่งเผยแพร่ข้อมูลการท่องเที่ยวอีกด้วย
2
Tsubamesanjo Bit
-
Tsubamesanjo Italian Bit เป็นร้านอาหารอิตาเลียนที่มีสาขา 4 แห่งในจังหวัดนีงาตะ (มีสาขาที่ขายเป็น Take Out และร้านที่เป็นคาเฟ่) และร้านอาหาร 2 แห่งในโตเกียว
ร้านสาขาหลัก “Tsubame-Sanjo Italian Bit” ตั้งอยู่ในเมือง Sanjo และมีที่นั่งมากกว่า 100 ที่นั่ง! เป็นร้านอาหารอิตาเลียนรูปแบบใหม่ที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับอาหารอร่อยและเทคนิคพิเศษของ Tsubame-Sanjo ได้ในเวลาเดียวกัน
ภายในร้านตกแต่งด้วยเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารและช้อนส้อมที่ทำโดยช่างฝีมือจากทั่วทั้งจังหวัดนีงาตะ โดยส่วนใหญ่มาจากพื้นที่ Tsubame-Sanjo โดยมีแนวคิดในการเผยแพร่เทคนิคของ Tsubame-Sanjo ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการผลิตอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารแบบตะวันตก และที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ในด้านอาหาร เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร และการออกแบบตกแต่งภายใน
นอกจากนี้ ภายในร้าน จะมีห้อง 5D ที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับมื้ออาหารสุดสร้างสรรค์ร่วมกับการฉายภาพ! ไม่เพียงแต่ความอร่อยของอาหารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงได้เปิดประสาทสัมผัสทั้งห้าของคุณด้วย เช่น การเห็นด้วยตาและการดมกลิ่นด้วยจมูกของคุณ
3
Gyokusendo
-
Gyokusendo ได้ผลิตภาชนะทองแดงสึอิคิและงานฝีมือดั้งเดิมของจังหวัดนีงาตะมาอย่างต่อเนื่องกว่า 200 ปี
ภาชนะทองแดงสึอิคิเป็นแผ่นทองแดงที่ถูกทำให้ขึ้นรูปด้วยการเลือกใช้ค้อนและโลหะรองรูปกว่าร้อยชนิด มีจุดเด่นเป็นความเงางามและโทนสีเข้มที่จะเด่นชัดขึ้นตามการใช้งาน
Gyokusendo มีผลิตภัณฑ์หลากหลายที่สวยงามและเหมาะสำหรับชีวิตประจำวันของคนยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นภาชนะใส่ชาหรือสาเก ภาชนะหุงต้ม ที่ดริปกาแฟ หรือแม้แต่ที่ใส่นามบัตร นอกจากนี้ บริเวณโรงงานที่มีอายุกว่า 100 ปีก็ยังเปิดให้เข้าไปทัศนศึกษาการผลิตได้ด้วย
แม้ว่าภาชนะทองแดงสึอิคิจะไม่ใช่ของราคาถูก แต่ก็เป็นสุดยอดผลงานที่ไม่ซ้ำใคร ยิ่งใช้ไปเรื่อยๆ ก็จะทำให้รู้สึกผูกพันมากขึ้น
4
ซานโจ คาจิ โดโจ (Sanjo Kaji Dojo)
-
Sanjo Kaji Dojo เป็นสถานที่ที่คุณจะได้สัมผัสกับศาสตร์ตีเหล็กดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาในเมืองซันโจ
ตั้งแต่สมัยโบราณ เมืองซันโจได้เป็นที่รู้จักในฐานะเมืองอุตสาหกรรมของผลิตภัณฑ์โลหะ ศาสตร์การตีเหล็กที่เป็นรากฐานของอุตสาหกรรมดังกล่าวก็ยังคงได้รับการสืบทอดมาถึงปัจจุบัน เป็นบริเวณที่ให้ความสำคัญกับจิตวิญญาณการสร้างสิ่งของ และมุ่งที่จะพัฒนาให้เติบโตยิ่งขึ้น
เหมาะมากสำหรับผู้ที่อยากสัมผัสศาสตร์ตีเหล็กดั้งเดิมผ่านกิจกรรมต่างๆ ภายใต้คำชี้แนะของช่างตีเหล็กมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างตะปูญี่ปุ่น สร้างมีดตัดกระดาษ หรือลับมีด
5
Shiki No Yado Minoya
-
โรงเตี๊ยมที่ตั้งอยู่หน้าศาลเจ้ายาฮิโกะ ย่าน Ichinomiya เมือง Echigo คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับอาหารที่ทำจากวัตถุดิบที่ส่งตรงจากตลาด และแช่ออนเซ็นศักดิ์สิทธิ์ของศาลเจ้า Yu Shrine นอกจากนี้เรายังขอแนะนำสาเกที่เจ้าของซึ่งเป็นซอมเมอลิเยร์คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันอีกด้วย
6
ศาลเจ้ายาฮิโกะ
-
ศาลเจ้ายาฮิโกะ (Yahiko Shrine) เป็นศาลเจ้าที่ได้รับการศรัทธามาตั้งแต่สมัยโบราณในฐานะศาลเจ้าระดับสูงในเอจิโกะ ศาลเจ้านี้มีอีกชื่อเรียกว่า “โอยาฮิโกะซามะ” อีกทั้งยังมีผู้เยี่ยมชมในฐานะศาลเจ้าแห่งแรกของปีมากกว่า 200,000 คนทุกปี
ศาลเจ้าเก่าแก่แห่งนี้ว่ากันว่าสร้างขึ้นมานานกว่า 2,400 ปีแล้ว ถึงขนาดมีการจารึกไว้ใน "มันโยชุโบราณ" หรือคำกลอนโบราณของญี่ปุ่น เทพเจ้าที่สถิตย์อยู่ที่แห่งนี้คืออาเมะโนะคาโงะยามะโนะมิโคโตะ ซึ่งเป็นเหลนของเทพธิดาอามาเทราสึ โดยที่นี่มีชื่อเสียงในเรื่องดวงเรื่องความรัก
ศาลเจ้าแห่งนี้สามารถเดินได้จากสถานี JR Yahiko จึงสามารถแวะเวียนไปได้ง่าย นอกจากนี้ยังสามารถขับรถโดยใช้เส้นทาง Sanjo Tsubame IC และบริเวณใกล้เคียงมีลานจอดรถฟรีอีกด้วย
ศาลเจ้ายาฮิโกะมีป่าที่ได้รับการอนุรักษ์ ซึ่งบริเวณที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ยังให้บรรยากาศร่มรื่น ที่นี่นอกจากจะมีชื่อเสียงในฐานะจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว ยังสามารถสัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติได้ตลอดทั้งปี
ภายในศาลเจ้านั้นมีหินไฟทรงกลม (หรือเรียกว่าหินโอโมคารุ) ว่ากันว่าเป็นหินที่สามารถทำนายได้ว่าความปรารถนาของคุณจะเป็นจริงหรือไม่ ขึ่นอยู่กับน้ำหนักของหินที่อุ้ม อย่าลืมแวะไปลองอุ้มกันดูนะ
และสำหรับใครที่ต้องการเพลิดเพลินกับบรรยากาศอันสุดพิเศษของศาลเจ้านี้ ขอแนะนำให้ไปเยี่ยมชมตั้งแต่เช้าตรู่ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีคนน้อย เนื่องจากที่นี่เป็นศาลเจ้าที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในจังหวัดนีงาตะ
สุดท้ายนี้ ขอแนะนำให้แวะไปสักการะที่ยอดเขายาฮิโกะด้วย เนื่องจากบริเวณนั้นยังมีที่ประดิษฐานของเทพเจ้าอาเมะโนะคาโงะยามะโนะมิโคโตะและภรรยาของเขา สามารถเดินจากศาลเจ้าเพียง 10 นาที จากนั้นขึ้นกระเช้าลอยฟ้าสถานี Yahiko เพื่อมุ่งไปยังยอดเขาได้ นอกจากนี้ยังมีบริการรถรับส่งฟรีจากศาลเจ้าไปยังสถานีกระเช้าอีกด้วย และสำหรับใครที่เดินทางไปด้วยรถยนต์ สามารถขับไปทางยาฮิโกะสกายไลน์ (Yahiko Sky Line) ได้อีกด้วย
7
KOKAJIYA
-
ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ในบ้านเก่าแก่ที่ได้รับการรีโนเวทใหม่ตรงหัวมุมเมือง Iwamuro Onsen ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 300 ปี เป็นอาคารที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ของประเทศญี่ปุ่นและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างยิ่ง
มาลิ้มรสอาหารอิตาเลียนฟิวชั่นซึ่งใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลในท้องถิ่นและผสมผสานไปด้วยวัฒนธรรมท้องถิ่นมากมาย เช่น อาหารหมักและอาหารแห้งที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของนีงาตะ
เมนูแต่ละวันจะขึ้นอยู่กับวัตถุดิบในวันนั้น เช่น ผักและปลาต่างๆ ดังนั้นคุณจึงสามารถเพลิดเพลินกับอาหารจานใหม่ได้ทุกวันตลอดทั้งปี
เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ยอดเยี่ยมที่ผสมผสานประวัติศาสตร์และอาหารเข้าด้วยกันในพื้นที่ที่เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ
ดูเพิ่มเติม
8
พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมภาคเหนือ
-
พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมภาคเหนือ (Northern Culture Museum) ตั้งอยู่บริเวณชานเมืองของนีงาตะ เป็นพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวแห่งแรกหลังยุคสงคราม ซึ่งเดิมทีเป็นคฤหาสน์ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ของตระกูลอิโตะหนึ่งในเจ้าของที่ดินรายใหญ่ที่สุดในเอจิโกะ
ด้วยพื้นที่อันกว้างใหญ่กว่า 3 เฮกตาร์ (ประมาณ 18.75 ไร่) นั้นเต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ มากมายให้ได้ชม รวมถึงอาคารต่าง ๆ อาทิ บ้านหลังใหญ่ ห้องโถงขนาดใหญ่ ห้องชา โรงเก็บของ สวนแบบจิเซนไคยูชิคิหรือสวนที่มีสระน้ำใหญ่อยู่ตรงกลาง และคอลเลกชันผลงานศิลปะที่รวบรวมโดยเจ้าของบ้านหลายต่อหลายรุ่นอีกด้วย คฤหาสน์แห่งนี้ใช้เวลาสร้างนานถึง 8 ปี จึงมีความยิ่งใหญ่ หรูหราและงดงามทำให้คุณแทบจะลืมหายใจได้เลย
ในสวนกลางมีดอกวิสทีเรียที่แผ่กิ่งก้านสาขามาจากต้นไม้เพียงต้นเดียว ซึ่งมีอายุถึง 150 ปี และมีเส้นรอบวงลำต้นมากกว่า 1.60 เมตร ดอกไม้สีม่วงอ่อนจะผลิบานส่งกลิ่นหอมในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคมเป็นประจำทุกปี นอกจากนี้ในช่วงดอกไม้บานยังมีการจัดไฟประดับอีกด้วย
นอกจากนี้ สวนดังกล่าวในเดือนพฤศจิกายนจะถูกแต่งแต้มสีสันด้วยใบไม้เปลี่ยนสี ราวกับยกภูเขาอันงดงามที่ปกคลุมไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีมาวางไว้ตรงหน้า ดังนั้น การชมสีสันของสวนแบบจิเซนไคยูชิคิที่มองเห็นจากห้องจัดเลี้ยงขนาด 100 เสื่อเป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินกับสีสันทั้งสีแดง สีเหลืองของใบเมเปิ้ลและสีเขียวของต้นสดที่ตัดกันอย่างงดงาม
นอกจากช่วงดอกวิสทีเรียแล้ว ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีเองก็มีการจัดไฟประดับเช่นเดียวกัน โดยบรรยากาศไฟประดับในช่วงนี้ความรู้สึกอันน่าประทับใจถึงความลึกและสามมิติของสวนทั้งหมด
ที่นี่มีร้านค้าต่าง ๆ อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นร้านจำหน่ายสินค้าของที่ระลึก ร้านกาแฟ ร้านอาหาร (ต้องจองล่วงหน้า) หรือที่พัก (ต้องจองล่วงหน้า) เป็นต้น จึงอยากเชิญคุณมาค่อย ๆ ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่อัดแน่นไปด้วยประวัติศาสตร์และความงามของนีงาตะนี้
นอกจากช่วงดอกวิสทีเรียกับใบไม้เปลี่ยนสีซึ่งเป็นที่นิยมแล้ว ที่นี่ยังมีดอกซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกบัวในช่วงฤดูร้อน และทิวทัศน์ของปุยหิมะในช่วงฤดูหนาวด้วย จึงเรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่บรรยากาศดีทั้งสี่ฤดูกาล และสามารถแวะมาเพลิดเพลินได้เสมอ
9
Imayo Tsukasa
-
ข้าวเป็นวัตถุดิบที่ขาดไม่ได้สำหรับการทำสาเกญี่ปุ่น ด้วยเหตุนี้เอง จังหวัดนีงาตะที่เป็นแหล่งผลิตข้าวจึงมีโรงกลั่นสาเกมากเป็นอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น
Imayo Tsukasa อยู่ใกล้กับสถานีนีงาตะในระยะที่เดินถึงได้ สามารถเพลิดเพลินไปกับทัวร์โรงเก็บสาเกโดยไกด์ภาษาอังกฤษ คุณจะได้รับฟังเรื่องราวที่หลากหลาย ตั้งแต่วิธีทำสาเก ไปจนถึงประวัติศาสตร์ของจังหวัดนีงาตะและพื้นที่บริเวณรอบๆ
สาเกที่ผลิตโดย Imayo Tsukasa นั้น แม้จะขมแต่ก็ให้รสอูมามิที่ชัดเจน เป็นความสมดุลสุดพิเศษที่ไม่ไปบั่นทอนรสชาติของอาหาร
หลังจากทัวร์ชมโรงเก็บสาเกเสร็จแล้ว ก็ไม่ควรพลาดที่จะชิมสาเกที่บริเวณจุดขาย และค้นหาสาเกที่ถูกใจคุณเป็นพิเศษ
10
Pier Bandai (Pegan Terrace)
-
Pier Bandai เป็นคอมเพล็กซ์ที่ครบครันทั้งด้านการค้าและท่องเที่ยว เป็นศูนย์รวมผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของนีงาตะ ทั้งยังมีร้านอาหารอยู่มากมาย Pagan Terrace ตั้งอยู่ในสถานที่ดังกล่าวนี้ เป็นพื้นที่ที่มีการจัดอีเวนต์อยู่เป็นครั้งคราว ช่วงเดือนเมษายนถึงตุลาคมจะมีบาร์บีคิวให้เพลิดเพลินท่ามกลางบรรยากาศที่เปิดโล่ง
เนื่องจากสามารถนำวัตถุดิบที่ซื้อภายใน Pier Bandai มาทำบาร์บีคิวได้อย่างอิสระ จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้ลิ้มรสผัก เนื้อสัตว์ และอาหารทะเลของนีงาตะในสภาพสดใหม่ ทั้งยังมีเซ็ตวัตถุดิบที่คัดสรรมาแล้วให้เลือกซื้ออยู่อีกด้วย
สถานนี้อยู่ห่างจากสถานีนีงาตะโดยเดินเพียง 15 นาที และมี Wi-Fi ฟรีให้ใช้บริการ จึงเหมาะมากสำหรับนักท่องเที่ยว
ในวันที่อากาศดีก็ไม่ควรพลาดที่จะแวะมาผ่อนคลายอย่างสบายๆ ที่ Pegan Terrace ดูสักครั้ง
ช่วงที่เปิดให้บริการ : กลางเมษายน - ต้นตุลาคม
* ไม่เหมือนกันในแต่ละปี สามารถตรวจสอบรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ
เวลาทำการ : 11:00 - 21:00 น.
สถานที่จัดงาน : Pier Bandai (Pegan Terrace)
11
Hotel Nikko Niigata
-
โรงแรมที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Shinano ซึ่งไหลผ่านใจกลางเมืองนีงาตะ ได้รับการสร้างขึ้นให้ดูเหมือนว่าอาคารทั้งหลังเป็นเรือสำราญที่ลอยอยู่บนแม่น้ำ Shinano ภายในอาคารเต็มไปด้วยจุดน่าสนใจมากมาย เช่น ห้องพักที่มีวิวสวยเป็นอันดับหนึ่งของเมือง ร้านอาหารที่มีเมนูอร่อยๆ ให้เพลิดเพลินไปพร้อมกับวิวของแม่น้ำ Shinano และเกาะ Bandai และห้องจัดเลี้ยงที่มีเสน่ห์เป็นวิวพาโนราม่า 180 องศาเหนือพื้นดิน 30 ชั้น บุฟเฟ่ต์มื้อเช้าของที่นี่ก็มีชื่อเสียงมากเช่นกัน โดยเรียงรายไปด้วยเมนูจากวัตถุดิบและอาหารนีงาตะ เช่น ข้าว Koshihikari ที่ผลิตใน Uonuma Shiozawa ซึ่งเป็นข้าวที่โด่งดังเป็นพิเศษของนีงาตะ
ทางด้านการเดินทางก็สะดวกสบายเช่นกัน โรงแรมนี้เชื่อมต่ออยู่กับ Sado Kisen Ferry Terminal ซึ่งใช้เวลาเดินทางเพียง 8 นาทีโดยนั่งรถยนต์จากสถานีนีงาตะ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเป็นฐานหลักของการเที่ยวนีงาตะ รับรองว่าจะทำให้ทริปของคุณสะดวกสบายอย่างแน่นอน
12
Kyu Saitoke Bettei
-
มรดกญี่ปุ่นและทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของชาติ Kyu Saitoke Bettei เป็นบ้านพักตากอากาศที่สร้างขึ้นในปี 1918 โดย Kijuro หัวหน้ารุ่นที่ 4 ของตระกูลการค้าไซโตแห่งนีงาตะ ทุกซอกมุมของอาคารถูกสร้างขึ้นอย่างหรูหรา จนได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสุดยอดผลงานของอาคารญี่ปุ่นยุคโมเดิร์น พื้นที่ทั้งหมดกว้างถึงกว่า 4,500 ตารางเมตร ภายในมีสวนอยู่ 3 สวน หนึ่งในนั้นเป็นสวนแบบวนรอบบ่อที่ประดับไปด้วยน้ำตก หินขนาดใหญ่ และหินทรงแปลกตา สามารถเพลิดเพลินไปกับเสน่ห์ของสี่ฤดูกาล และจะน่าตื่นตาเป็นพิเศษในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีของฤดูใบไม้ร่วง นอกจากนี้ จากตัวอาคารยังสามารถชมวิวสวนทั้งหมดแบบพาโนราม่าได้ด้วย เหมาะมากสำหรับการชมวิวสวนสวยๆ พลางลิ้มรสมัทฉะและขนมญี่ปุ่น
13
สถานี Niigata
-
สถานี Niigata จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2024 การเปิดตัวศูนย์การค้า "CoCoLo Niigata" และสถานี Niigata จะมีการปรับปรุงเพิ่มความสะดวกสบาย แปลงโฉมให้เป็นจุดที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักท่องเที่ยว โดยเชื่อมต่อห้างโดยตรงกับสถานีเพื่อให้ได้เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งและทานอาหารเลิศรส
CoCoLo Niigata มีร้านขายของชำ ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกมากมาย ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินไปกับอาหารพิเศษท้องถิ่นและอาหารรสเลิศยอดนิยม
หากคุณอยากลิ้มรสอาหารทะเลตามฤดูกาลของนีงาตะภายในสถานี เราขอแนะนำร้าน Niigata Sushi Kaisen-ya ร้านนี้เน้นไปที่ความสดใหม่ ราคา และการคัดสรรวัตถุดิบ
หรือหากคุณยังไม่แน่ใจว่าจะทานอะไร ให้ลองไปที่ Niigata Bar★Men Yokocho เป็นพื้นที่รับประทานอาหารที่เรียงรายไปด้วยร้านราเมนและอิซากายะชื่อดังของนีงาตะซึ่งคุณสามารถลิ้มลองอาหารท้องถิ่นรสเลิศได้และรับรองว่าคุณจะได้พบกับร้านที่คุณชื่นชอบอย่างแน่นอน