เพลิดเพลินไปกับการเล่นหิมะและอาหารเลิศรส! ทัวร์หรูหราในฤดูหนาวของนีงาตะ





จากสถานี Echigo Yuzawa โดยรถยนต์ประมาณ 5 นาที
1
GALA Yuzawa
-
GALA Yuzawa เป็นสนามสกีที่เดินทางสะดวกมาก ใช้เวลาเดินทางเพียง 74 นาทีโดยนั่ง JR Joetsu Shinkansen จากสถานีโตเกียวมาลงที่สถานี GALA Yuzawa หลังจากผ่านประตูตรวจตั๋วออกมาก็จะพบกับเนินสกีอย่างทันที
ภายในมีมุมเช่ายืมอุปกรณ์ที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น ครบครันไปด้วยอุปกรณ์รุ่นล่าสุด แม้จะเดินทางมาตัวเปล่าก็สามารถสบายใจได้
สนามสกีนี้มีกระเช้าลอยฟ้าที่สูง 800 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล แผ่กว้างไปด้วย 3 โซนที่มีคอร์สยากง่ายหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมือโปรก็สามารถสนุกได้
หลังจากเล่นสกีอย่างเต็มที่แล้วก็สามารถมาผ่อนคลายที่ออนเซ็นในร่ม SPA GALA no Yu
เนื่องจากมีทั้งโซนเด็กในบริเวณเนินสกี และห้องเด็กในร้านอาหารบนยอดเขาปลายทางกระเช้าลอยฟ้า จึงเหมาะสำหรับการเที่ยวเป็นครอบครัวด้วยเช่นกัน
2
FARM FRONT
-
FARM FRONT ที่ตั้งอยู่ในเมือง Minami Uonuma เป็นสถานที่ที่สามารถลิ้มรสข้าวปั้นแสนอร่อย ทั้งยังมีข้าวปลอดสารเคมีและข้าวลดสารเคมีให้เลือกซื้อ
ข้าวที่ FARM FRONT ใช้นั้นเป็นข้าวจาก Seki Noen ฟาร์มเจ้าของรางวัลชนะเลิศการประกวดรสชาติข้าวต่อเนื่องกันถึง 6 ปี
ภายในร้านมี Shio Musubi (ข้าวปั้นรสเกลือ) ให้ลิ้มลอง ทำขึ้นโดยนำข้าวชั้นเลิศดังกล่าวมาหุงผ่านหม้อดิน
เนื่องจากมีกาแฟข้าวเก็นไมสูตรโฮมเมดให้บริการอยู่ด้วย จึงเหมาะมากสำหรับสั่งมาลิ้มรสไปพร้อมๆ กัน
รับรองว่าคุณจะได้ดื่มด่ำไปกับเสน่ห์และความอร่อยของข้าว ท่ามกลางบรรยากาศที่ชวนผ่อนคลาย พลางชมทิวทัศน์ชนบทที่สวยงาม
3
หุบเขาคิโยสึ/อุโมงค์แห่งแสง
-
หุบเขาคิโยสึ (Kiyotsu Gorge) เป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในสามหุบเขาที่สำคัญของญี่ปุ่น ร่วมกับหุบเขาคุโรเบะและหุบเขาโอซุกิดานิ ด้วยหน้าผาขนาดใหญ่ที่ทอดข้ามแม่น้ำทำให้เกิดช่องเขารูปตัว V ที่นี่จึงได้กำหนดให้เป็นจุดชมวิวระดับชาติและอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติ
ทิวทัศน์ของแนวเสาหินอันงดงามและแม่น้ำคิโยสึที่มีชีวิตชีวานั้นงดงามมาก และสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือนอยู่เสมอ นอกจากนี้ ที่งาน Echigo-Tsumari Art Triennale ปี 2018 อุโมงค์ทั้งหมดได้รับการปรับปรุงใหม่เป็นงานศิลปะโดยนักสถาปัตยกรรมชื่อ Ma Yanson จากบริษัทสถาปัตยกรรมจีน MAD Architects
ยิ่งไปกว่านั้นบริเวณด้านในของอุโมงค์เข้าไปยังหุบเขาและบริเวณหน้าทางเข้ายังสร้างพื้นที่ทางสถาปัตยกรรมและบรรยากาศทางศิลปะภายใต้คอนเซ็ปต์ "องค์ประกอบหลัก 5 ประการ" ของธรรมชาติ ได้แก่ ไม้ ดิน โลหะ ไฟ และน้ำแต่งแต้มสีสันเป็นลวดลายและชิ้นงานต่าง ๆ
ที่บริเวณหน้าทางเข้ามีสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ออนเซ็นเท้า ร้านจำหน่ายของที่ระลึก รวมไปถึงมีร้านคาเฟ่อีกด้วย (ปิดให้บริการในช่วงฤดูหนาว)
สำหรับใครที่สนใจ ก่อนออกเดินทางกรุณาตรวจสอบข้อมูลและสถานการณ์ปัจจุบันได้ทั้งในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ และโซเชียลมีเดีย อาทิ X (Twitter) ด้วยนะ
4
Tamaki-ya Sake Inn
-
Matsunoyama Onsen Tamaki-ya Sake Inn เป็นโรงแรมเล็กๆ ที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เชฟคุริยามะจากร้านอาหารฝรั่งเศสมิชลินสองดาว "Lews Restaurant" จะมารังสรรค์อาหารสไตล์ซาโตยามะอันเป็นเอกลักษณ์ โดยเจ้าของร้านคุณยามากิชิ ซึ่งเป็นปรมาจารย์ด้านสาเกและซอมเมลิเยร์ จะมาแพริ่งสาเกและไวน์ท้องถิ่นของนีงาตะให้ลงตัว
คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับออนเซ็นได้โดยตรงจาก Matsunoyama Onsen ซึ่งเป็นหนึ่งในสามออนเซ็นทางการแพทย์ที่โด่งดังที่สุดของญี่ปุ่น
5
Uonuma no sato
-
ในพื้นที่ลุ่มน้ำ Uonuma ที่เต็มไปด้วยหิมะ ผู้คนต่างชื่นชมทิวทัศน์ของทั้งสี่ฤดูกาล และประเพณีโบราณที่เกิดจากการใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติก็ได้รับการสืบทอดมา
"Uonuma no Sato" ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านชนบทบริเวณตีนเขา Hakkaisan เกิดจากความปรารถนาที่จะแบ่งปันชีวิตของ Uonuma และความสงบสุขที่มาจากประเพณีของประเทศที่เต็มไปด้วยหิมะ บริเวณนี้มีศูนย์กลางอยู่ที่โรงเหล้าสาเก "Hakkaisan'' และเต็มไปด้วยที่เที่ยวผ่อนคลาย เช่น"Hakkaisan Yukimuro'', "Sobaya Nagamori'' และ "ร้านขนม Satoya'' ที่จะมีร้านกาแฟ ร้านค้า และร้านขายของที่ระลึก
"โกดังหิมะ'' ซึ่งสามารถเข้าชมได้โดยการเข้าร่วมทัวร์ ซึ่งที่นี่จะเก็บหิมะได้ประมาณ 1,000 ตันในแต่ละปี ช่วยให้โรงเบียร์สามารถรักษาอุณหภูมิไว้ที่ประมาณ 4°C ทำให้สามารถเก็บเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารได้ตลอดทั้งปี
6
หมู่บ้านโอจิยะ นิชิกิโกอิ (Ojiya Nishikigoi no Sato)
-
เมือง Ojiya เป็นต้นกำเนิดของ Nishikigoi ปลาคาร์ปสีสันสดใสที่เป็นเหมือนกับอัญมณีที่ว่ายน้ำได้
Nishikigoi ตัวแรกเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 200 ปีก่อนจากการกลายพันธุ์อย่างกระทันหัน หลังจากนั้นก็ได้รับการค้นคว้าและปรับปรุงสายพันธุ์เรื่อยมาโดยชาวเมือง Ojiya จนกลายมาเป็นสายพันธุ์ปลาสวยงามในที่สุด และได้รับการระบุให้เป็นปลาสวยงามประจำจังหวัดนีงาตะในวันที่ 5 พฤษภาคม 2017
Nishikigoi no Sato เป็นสถานที่แห่งเดียวในโลกที่จัดแสดงประวัติศาสตร์ของ Nishikigoi ดังกล่าว โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อพลักดันให้มันเป็นที่รู้จักมากขึ้น
ภายในอาคารมีสวนญี่ปุ่นที่ตกแต่งด้วยสะพานและน้ำตก สามารถชื่นชม Nishikigoi กว่า 200 ตัวจาก 15 สายพันธุ์ชั้นเลิศได้อย่างใกล้ชิด
7
Koshu Hanten
-
ร้านนี้ได้รับความนิยมมาจากเหตุผลที่ว่ากันว่าเป็นผู้ริเริ่ม "Tsubame seabura ramen" ซึ่งได้แรงบัลดาลใจมาจากตอนเปิดร้านที่มีไอเดียว่า "การกินจนอิ่มท้องเป็นความสุขอย่างยิ่ง'' ผู้ก่อตั้งที่มาจากประเทศจีนได้คิดค้น "ซุปกระดูกหมด'' ให้ลูกค้าได้ลิ้มลอง โดยดัดแปลงแรงบันดาลใจจากอาหารในประเทศบ้านเกิดของเขาและเติมน้ำไขมันหมูลงในซุป
แม้แต่เส้นบะหมี่ที่มีความหนาที่เป็นเอกลักษณ์ ตั้งแต่เปิดร้านในปี 1933
ราเมงที่ถูกรังสรรค์จากการลองผิดลองถูกที่คอยหล่อเลี้ยงอุตสาหกรรมแปรรูปโลหะของเมือง รสชาติที่ล้ำลึกที่เกิดจากเนื้อหมูยอดนิยมของนีงาตะ เส้นโฮมเมดที่หนาและกว้างเป็นพิเศษ และซุปปลาแห้ง เป็นอะไรที่ต้องลองให้ได้สักครั้ง แม้จะต้องต่อคิวหน้าร้านก็ตาม!
8
Hotel Nikko Niigata
-
โรงแรมที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Shinano ซึ่งไหลผ่านใจกลางเมืองนีงาตะ ได้รับการสร้างขึ้นให้ดูเหมือนว่าอาคารทั้งหลังเป็นเรือสำราญที่ลอยอยู่บนแม่น้ำ Shinano ภายในอาคารเต็มไปด้วยจุดน่าสนใจมากมาย เช่น ห้องพักที่มีวิวสวยเป็นอันดับหนึ่งของเมือง ร้านอาหารที่มีเมนูอร่อยๆ ให้เพลิดเพลินไปพร้อมกับวิวของแม่น้ำ Shinano และเกาะ Bandai และห้องจัดเลี้ยงที่มีเสน่ห์เป็นวิวพาโนราม่า 180 องศาเหนือพื้นดิน 30 ชั้น บุฟเฟ่ต์มื้อเช้าของที่นี่ก็มีชื่อเสียงมากเช่นกัน โดยเรียงรายไปด้วยเมนูจากวัตถุดิบและอาหารนีงาตะ เช่น ข้าว Koshihikari ที่ผลิตใน Uonuma Shiozawa ซึ่งเป็นข้าวที่โด่งดังเป็นพิเศษของนีงาตะ
ทางด้านการเดินทางก็สะดวกสบายเช่นกัน โรงแรมนี้เชื่อมต่ออยู่กับ Sado Kisen Ferry Terminal ซึ่งใช้เวลาเดินทางเพียง 8 นาทีโดยนั่งรถยนต์จากสถานีนีงาตะ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเป็นฐานหลักของการเที่ยวนีงาตะ รับรองว่าจะทำให้ทริปของคุณสะดวกสบายอย่างแน่นอน
9
Kyu Saitoke Bettei
-
มรดกญี่ปุ่นและทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของชาติ Kyu Saitoke Bettei เป็นบ้านพักตากอากาศที่สร้างขึ้นในปี 1918 โดย Kijuro หัวหน้ารุ่นที่ 4 ของตระกูลการค้าไซโตแห่งนีงาตะ ทุกซอกมุมของอาคารถูกสร้างขึ้นอย่างหรูหรา จนได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสุดยอดผลงานของอาคารญี่ปุ่นยุคโมเดิร์น พื้นที่ทั้งหมดกว้างถึงกว่า 4,500 ตารางเมตร ภายในมีสวนอยู่ 3 สวน หนึ่งในนั้นเป็นสวนแบบวนรอบบ่อที่ประดับไปด้วยน้ำตก หินขนาดใหญ่ และหินทรงแปลกตา สามารถเพลิดเพลินไปกับเสน่ห์ของสี่ฤดูกาล และจะน่าตื่นตาเป็นพิเศษในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีของฤดูใบไม้ร่วง นอกจากนี้ จากตัวอาคารยังสามารถชมวิวสวนทั้งหมดแบบพาโนราม่าได้ด้วย เหมาะมากสำหรับการชมวิวสวนสวยๆ พลางลิ้มรสมัทฉะและขนมญี่ปุ่น
※กรุณาจอดรถในลานจอดรถใกล้เคียง
10
Tonbei ~ร้านข้าวปั้นโอนิกิริและซุปหมู~
-
ร้านข้าวปั้นสูตรพิเศษที่เสิร์ฟข้าวปั้นโอนิกิริที่เจ้าของร้านคัดสรรวัตถุดิบมาอย่างดี รวมถึงซุปหมู (ซุปมิโซะที่ทำจากหมูและผัก)
โอนิกิริลูกใหญ่มาก แต่ละลูกมีน้ำหนักประมาณ 170 กรัม และใช้ส่วนผสมในท้องถิ่นที่คัดสรรมาอย่างดี ไม่เพียงแต่ข้าวและเกลือเท่านั้น แต่ยังรวมถึงส่วนผสมต่างๆ อีกด้วย
คุณยังสามารถเลือกจับคู่ท็อปปิ้งได้ตามใจจากทั้งหมด 13 อย่าง รวมถึงปลาแซลมอนย่างถ่านอย่างดีและไข่แดงที่หมักในซอสหอยนางรม คุณสามารถผสมไปมาลองชืมได้มากกว่า 60 แบบ ไม่ว่าคุณจะไปสักกี่ครั้งคุณก็จะได้รสชาติที่แตกต่างออกไปจากรอบที่แล้ว ซุปหมูที่เข้ากันอย่างลงตัวกับข้าวปั้นที่ทำสดใหม่ เป็นผลงานชิ้นเอกที่เกิดจากการลองผิดลองถูกซ้ำแล้วซ้ำเล่า
มาลองลิ้มรสชาติอันอบอุ่นใจที่คุณจะไม่มีวันลืมเมื่อได้ไปลองที่ Tonbei