เพลิดเพลินกับเหล้าสาเกแสนอร่อยในนีงาตะ อาณาจักรแห่งเหล้าสาเกท้องถิ่น

2 วัน 1 คืน
รถไฟ รถแท็กซี่
เที่ยวชมโรงกลั่นไวน์ที่มีห้องเก็บไวน์ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น และเพลิดเพลินกับการชิมเหล้าสาเกขึ้นชื่อบนรถไฟนำเที่ยวอย่าง "โคชิโนะ Shu*Kura" ที่ได้แนวคิดมาจากเหล้าสาเก สุดท้ายคุณจะได้เพลิดเพลินกับการเที่ยวชมห้องเก็บหิมะและซื้อของที่ระลึกที่โรงกลั่นเหล้าสาเก
เริ่มต้น
10 นาทีโดยรถแท็กซี่จากสถานีอาราอิของรถไฟเอจิโกะ โทกิเมกิ

1

สถานีริมทาง "อาราอิ"

Seafood and mountain food!

There are farmers' markets with fresh vegetables, restaurants, inns and a convenience store. You can purchase Niigata specialties like rice and sake and fresh seafood from the Sea of Japan. The station also offers travel and traffic information.

10 นาทีโดยรถแท็กซี่
15 นาทีจากสถานีอาราอิของสายเมียวโก ฮาเนอุมะ และลงที่สถานีทากาดะ
10 นาทีโดยรถแท็กซี่จากสถานีทากาดะ

2

สวนสาธารณะซากปราสาททาคาดะ

สวนสาธารณะอันกว้างขวางที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศที่มีทั้งพิพิธภัณฑ์และห้องสมุด

สวนสาธารณะซากปราสาททาคาดะ (Takada Castle Site Park) เป็นสวนสาธารณะที่สร้างขึ้นบนซากปรักหักพังของปราสาททาคาดะ เพื่อเป็นที่พักอาศัยของมัตสึไดระ ทาดาเทรุ ลูกชายคนที่หกของโชกุนโทคุงาวะ อิเอยาสุ โดยปัจจุบันทั้งสวนถูกกำหนดให้เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ประจำจังหวัดนีงาตะ

ว่ากันว่าสวนแห่งนี้สร้างขึ้นในขณะมีการก่อสร้างเพื่อรื้อถอนกำแพงดินส่วนใหญ่และถมคูน้ำสมัยยุคเมจิปี 40 (ปี 1907) ที่นี่มีพื้นที่ประมาณ 50 เฮกตาร์ (ประมาณ 312 ไร่) จึงทำให้เป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง

ภายในสวนสาธารณะมีอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวกทางวัฒนธรรมมากมาย อาทิ ป้อมปราการสามชั้นที่ได้รับการบูรณะใหม่ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ ห้องสมุด เป็นต้น อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านกีฬา อาทิ สนามกรีฑา สนามเบสบอล ทางเดินเล่นรอบสนามหญ้าทั้งด้านนอกแบะบริเวณคูเมือง เพื่อเป็นสถานที่ให้ประชาชนได้เดินเล่นพักผ่อน

นอกจากนี้ บ้านพักของจิตรกรชาวญี่ปุ่นชื่อดังอย่างโคเคอิ โคบายาชิ และสะพานโกคุราคุที่เชื่อมทางเข้าปราสาทก็ได้รับการบูรณะใหม่แล้วเช่นกัน

สวนสาธารณะซากปราสาททาคาดะนั้นเป็นสถานที่ที่สามารถมาเที่ยวได้ทั้งสี่ฤดูกาล และยังมีชื่อเสียงในฐานะจุดชมดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิอีกด้วย

เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิ ต้นซากุระประมาณ 4,000 ต้นจะบานสะพรั่งทั่วทั้งสวนและพื้นที่โดยรอบ โดยภาพป้อมปราการสามชั้นและดอกซากุระที่เปล่งประกายจากแสงโคมไฟที่สะท้อนลงบนผิวน้ำยามค่ำคืนนั้นถือเป็นหนึ่งใน "สามอันดับซากุระยามค่ำคืนที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น"

ที่นี่มีการจัดงานเทศกาลชมซากุระทุกปีภายใต้ชื่อ "งานชมดอกซากุระที่สวนสาธารณะซากปราสาททาคาดะ" นอกจากนี้ หากเป็นช่วงฤดูร้อน ยังมีดอกบัวบานสะพรั่งเต็มคูรอบนอก ขนาดกับความงามนั้นได้รับการชมเชยว่าเป็น "อันดับหนึ่งของซีกโลกตะวันออก" (สำหรับงานเทศกาลชมดอกบัวจัดขึ้นช่วงกลางเดือนกรกฎาคมถึงปลายเดือนสิงหาคม)

15 นาทีโดยรถแท็กซี่

3

โรงกลั่นไวน์อิวะโนะฮาระ [โรงผลิตไวน์]

ไร่องุ่นอิวาโนะฮาระ ก่อตั้งเมื่อ 130 กว่าปีที่แล้วโดยบิดาแห่งองุ่นไวน์ญี่ปุ่น

ในปี 1890 ผู้ก่อตั้ง Zenbei Kawakami ซึ่งเป็นที่รู้จักในนามบิดาแห่งไวน์องุ่นญี่ปุ่น ได้เปิดไร่องุ่นในพื้นที่ Joetsu ที่เต็มไปด้วยหิมะที่นีงาตะ และเริ่มผลิตไวน์
ทัวร์ชมอุทยานจะบอกคุณเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของโรงกลั่นไวน์ ตลอดจนชื่อเสียงที่สั่งสมมานานกว่า 100 ปี และความหลงใหลอันไม่มีที่สิ้นสุดในการผลิตไวน์คุณภาพสูง คุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมอีกอย่างหนึ่งคือคุณสามารถเพลิดเพลินกับการชิมไวน์โดยเสียค่าธรรมเนียมได้หากต้องการ
ประสบการณ์อันน่าทึ่งรอคุณอยู่ ด้วยอาคารที่ยังคงรักษาร่องรอยของสมัยก่อตั้ง ทิวทัศน์จากทุ่งนาที่มองเห็นเมือง และร้านอาหารที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับวัตถุดิบในท้องถิ่น

พักค้างคืนในพื้นที่ใกล้เมือง

นั่งรถไฟโคชิโนะ Shu*Kura จากสถานีนาโอเอ็ตสึ

4

โคชิโนะ Shu*Kura

รถไฟสไตล์รีสอร์ทภายใต้คอนเซ็ปต์ "สาเกญี่ปุ่น"

โคชิโนะ ชู*คุระ (Koshino Shu*Kura) เป็นรถไฟสไตล์รีสอร์ทที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับสาเกท้องถิ่นของนีงาตะได้ คุณสามารถเพลิดเพลินกับสาเกพร้อมชมทะเลญี่ปุ่นที่สวยงามเมื่อรถไฟวิ่งผ่านเส้นทางระหว่างสถานี Joetsu-Myoko และสถานี Tokamachi นอกจากนี้ รถไฟยังจอดที่สถานี Omigawa ชั่วคราวซึ่งชานชาลาหันหน้าไปทางทะเลญี่ปุ่นอันกว้างใหญ่อีกด้วย

ภายในขบวนมีสาเกท้องถิ่นห้าชนิดที่คัดสรรมาอย่างดีจากจังหวัดนีงาตะจำหน่าย หากคุณจองแพลนอาหารด้วยล่ะก็ คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับอาหารมื้อเบาที่ทำจากวัตถุดิบในท้องถิ่นควบคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ "Koshino Shu*Kura Original Daiginjo Sake" ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายเฉพาะในรถไฟเท่านั้นจึงเหมาะกับการซื้อไปเป็นของที่ระลึกด้วยเช่นกัน สาเกนี้ผลิตโดยใช้วิธีที่เรียกว่า "ยามะไฮ"ซึ่งเป็นการหมักแลคติกแอซิดแบคทีเรียตามธรรมชาติที่อาศัยอยู่ในโรงเบียร์ จึงเรียกได้ว่าเป็นสาเกที่ทำให้คุณได้สัมผัสถึงสภาพภูมิอากาศของนีงาตะอย่างแท้จริง

ลงที่สถานีโทกะมาจิ
เดิน 10 นาที

5

พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย Echigo-Tsumari

จุดแสดงศิลปะ Echigo-Tsumari Art Triennale ซึ่งเป็นที่รวบรวมผลงานของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่

พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย Echigo-Tsumari Satoyama [KINARE] ได้เปลี่ยนชื่อเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย Museum on Echigo-Tsumari ได้เข้ามาแทนที่แบบถาวร และจะเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 มีผลงานจัดแสดงถาวร 15 ชิ้นในพิพิธภัณฑ์ รวมถึงผลงานใหม่ 8 ชิ้นจากปี 2021 และยังมีร้านค้าในพิพิธภัณฑ์ด้วย โดยจะทำหน้าที่เป็นจุดแสดง Echigo-Tsumari Art Triennale

[ศิลปินถาวร]: Yusuke Asai / Leandro Erlich / Ilya และ Emilia Kabakov / Carlos Garaicoa / Ryota Kuwakubo / Koichi Kurita / Nicolas Darro / Marnix Denais / Michiko Nakatani / Kohei Nawa / Carsten Nicolai / Massimo Bartolini feat. Lorenzo Bini/me/Daido โมริยามะ/แกร์ดา ชไตเนอร์ และยอร์ก เลนซ์ลิงเงอร์

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ชุมชนบริเวณทางเดินชั้น 1 ออกแบบและดูแลโดย Ryohin Keikaku Co., Ltd. ซึ่งใช้เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอีกด้วย

เดิน 10 นาทีถึงสถานีโทกะมาจิ
10 นาทีโดยรถไฟด่วนโฮกุเอ็ตสึ สายโฮกุโฮกุ และลงที่สถานีมัตสึได
เดิน 3 นาที

6

มัตสึได "โนบุไต"

พิพิธภัณฑ์แบบเปิดที่สามารถดื่มด่ำศิลปะ อาหาร และการเกษตร ท่ามกลางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของละแวก Echigo Tsumari

คอมเพล็กซ์ด้านวัฒนธรรมที่มุ่งค้นหาและเผยแพร่ความเป็นท้องถิ่นภายใต้ธีม "การพบกันของเมืองและชนบท"
จาก Matsudai Nohbutai ที่เป็นสิ่งก่อสร้างหลัก ไปสู่ปราสาท Matsudai ที่อยู่บนยอดเขา เป็นเส้นทางราว 2 กิโลเมตรที่กระจัดกระจายไปด้วยผลงานศิลปะประมาณ 40 รายการ สามารถชื่นชม เดินเล่น และสัมผัสวัฒนธรรมธรรมชาติของท้องถิ่น ทั้งยังมีโรงอาหารที่เสิร์ฟเมนูท้องถิ่นจากวัตถุดิบในพื้นที่อยู่อีกด้วย

Matsudai Nohbutai ออกแบบขึ้นโดยคณะสถาปนิกชาวฮอลแลนด์ที่ชื่อว่า MVRDV กล่าวได้ว่าตัวอาคารและห้องต่างๆ นั้นเองคือผลงานศิลปะที่ได้รับการออกแบบจากนักศิลปะหลากหลายคน
พิพิธภัณฑ์แบบเปิดแห่งนี้เป็นสถานที่ที่คุณสามารถเดินชมผลงานศิลปะ พลางสัมผัสทิวทัศน์ป่าเขา รวมถึงวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นและวัฒนธรรมการเกษตรของพื้นที่หิมะตกหนักที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน
นอกจากการเดินเล่นภายในบริเวณแล้ว ยังสามารถเดินทางด้วยจักรยานเช่าหรือรถยนต์ได้อีกด้วย สามารถเลือกวิธีเที่ยวชมได้ตามจุดประสงค์หรือระยะเวลาที่คุณต้องการ

เดิน 3 นาทีถึงสถานีมัตสึได
30 นาทีโดยรถไฟด่วนโฮกุเอ็ตสึ สายโฮกุโฮกุ และเปลี่ยนขบวนที่สถานีมุยกะมาจิ
5 นาทีโดยรถไฟ JR และลงที่สถานีอิตสึกะมาจิ
10 นาทีโดยรถแท็กซี่

7

อุโอนุมะ โนะ ซาโตะ

พื้นที่ที่คุณสามารถสัมผัสบรรยากาศอันน่าหวนนึกถึง และความสงบสุขผ่านวัฒนธรรมของประเทศที่เต็มไปด้วยหิมะ

ในพื้นที่ที่มีหิมะตกหนักอย่างอุโอนุมะ (Uonuma) นั้นเป็นเมืองที่ผู้คนต่างชื่นชมความเพลิดเพลินในแต่ละฤดูกาล และสืบทอดภูมิปัญญาโบราณที่เกิดจากการใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติ

อุโอนุมะ โนะ ซาโตะ (Uonuma No Sato) เป็นสถานที่ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านชนบทบริเวณตีนเขาฮักไกซัง (Mount Hakkai) มีความมุ่งมั่นที่จะถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตในเมืองอุโอนุมะ บรรยากาศอันน่าหวนนึกถึง และความสงบสุขผ่านวัฒนธรรมของประเทศที่เต็มไปด้วยหิมะ โดยมีศูนย์กลางหลักคือโรงเหล้าสาเกญี่ปุ่นอย่าง "ฮักไกซัง (Hakkaisan)" นอกจากนี้ยังมีจึดที่สามารถแวะพักได้ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่ ร้านค้า ร้านขายเครื่องครัว และอื่น ๆ เช่น "ฮักไกซังยูคิมุโระ (Hakkaisan Yukimuro)" "โซบะยะ นากาโมริ (Sobaya Nagamori)" ร้านขนม "ซาโตยะ (Satoya) " เป็นต้น

สำหรับฮักไกซังยูคิมุโระเป็นห้องที่เก็บหิมะไว้ประมาณ 1,000 ตันต่อปี เพื่อรักษาอุณหภูมิภายในโรงเบียร์ให้อยู่ที่ประมาณ 4 องศาเซลเซียส ทำให้สามารถเก็บเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารได้ตลอดทั้งปี หากเข้าร่วมทัวร์สามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

เป้าหมาย